ผู้ที่ควรรับประทานโสม
- ผู้ป่วยต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการรักษาหรือการพักฟื้น
- ผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด
- นักเรียน นิษิต นักศึกษา ที่ต้องใช้สมอง สมาธิ ความจำ
- ผู้บริหาร หรือผู้ทำงานที่ต้องใช้ความคิดและใกล้ชิดกับความเครียด
- นักกีฬา หรือผู้ต้องทำงานหนักใช้พลังงานมาก
- บุคคลทั่วไปที่ต้องการดูแลบำรุงสุขภาพร่างกายของตนเอง
ควรรับประทานโสมเวลาใด?
โสมเกาหลีสามารถดื่มได้ทุกเวลาและไม่ทำให้เกิดความระคายเคืองแก่กระเพาะอาหาร แต่การดื่มโสมในขณะเวลาที่ท้องว่างนั้นจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารสรรพคุณต่างๆ จากโสมได้ง่าย เพราะกระเพาะอาหารว่างทำให้ได้ผลดีมาก
ฉะนั้น จึงขอแนะนำให้ดื่มโสมในช่วงท้องว่าง เช่น หลังตื่นนอนตอนเช้าก่อนอาหารเช้า ช่วงระหว่างมื้ออาหาร และตอนก่อนเข้านอน เป็นต้น
ควรรับประทานโสมปริมาณเท่าใด? และนานแค่ไหน? ถึงจะเห็นผล ปริมาณความต้องการโสมของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพร่างกาย อายุ สถานะทางด้านสุขภาพ เป็นต้น แม้จะมีค่ากลางที่ระบุว่าควรรับประทานโสมในปริมาณคิดเป็นน้ำหนัก 2 กรัมต่อวัน และควรรับประทานอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน แต่ในกรณีที่ต้องการผลของโสมในระยะสั้น อาทิ ต้องการสรรพคุณในการกระตุ้น หรือต้องการขจัดอาการเหนื่อยอ่อนและสูญเสียพละกำลัง ในกรณีที่ร่างกายอ่อนแอ ระหว่างพักฟื้น ขนาดบริโภคอาจต้องเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน ซึ่งควรเริ่มบริโภคโสมจากปริมาณที่น้อย ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นจนถึงระดับที่เพียงพอสำหรับตน
โสมมีผลข้างเคียงหรือไม่? และมีความปลอดภัยแค่ไหน? โสมเป็นพืชสมุนไพรที่มีความปลอดภัยมากที่สุด แม้จะบริโภคในปริมาณที่มากหรือบริโภคติดต่อกันเป็นเวลานานตลอดชั่วอายุขัยก็ตาม ซึ่งผลการทดลองจากทั่วโลกต่างยอมรับเป็นทางเดียวกันว่า "ไม่มีอันตรายเลย" แม้แต่องค์การอาหารและยาของสหรัฐยังยอมรับว่า โสมเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูง สามารถจำหน่ายได้อย่างเสรีโดยไม่จำเป็นต้องมีกฎระเบียบควบคุม
ข้อมูลอ้างอิงจาก : เอกสารชุดอาหารและสุขภาพเรื่องโสม ราชันย์สมุนไพรแห่งโลกตะวันออก หน้าที่ 130-136
โดย สตีเฟ่น ฟลูเตอร์ M.A, PH.D ศักดิ์ บวร แปลและเรียบเรียง